top of page

กติกาใหม่ ซื้อ-ขาย ‘กัญชา’ ต้องมีใบสั่งแพทย์ จ่ายครั้งละ 30 กรัม!!

  • รูปภาพนักเขียน: BANGYA BONG ZING
    BANGYA BONG ZING
  • 23 พ.ค.
  • ยาว 2 นาที

เขียนโดยร้าน BANGYA BONG ZING วันที่ 22 พฤษภาคม 2568

กติกาใหม่ ซื้อ-ขาย ‘กัญชา’ ต้องมีใบสั่งแพทย์ จ่ายครั้งละ 30 กรัม!!
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)

สืบเนื่องจากจากกรณีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจจับผู้กระทำความผิด ลักลอบส่งออกกัญชา ตรวจยึดช่อดอกกัญชาน้ำหนักรวมกว่า 73.5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 3 ราย ขณะเตรียมขนย้ายของกลางออกนอกราชอาณาจักร โดยช่อดอกกัญชาถูกบรรจุในถุงซีลสุญญากาศอย่างแนบเนียนในกระเป๋าสัมภาระ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา


เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการแถลงข่าวมาตรการแก้ปัญหาการลักลอบส่งออกกัญชา


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้รับข้อมูลเรื่องการลักลอบขนส่งกัญชาออกไปต่างประเทศ ผ่านช่องทางสนามบินทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ตนจึงลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมแก้ปัญหาการลักลอบส่งออกกัญชา ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 โดยมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานฯ ร่วมกับกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 15 คน อย่างไรก็ตาม การลักลอบนำกัญชาออกจากประเทศไทย ส่งผลกระทบกับประเทศปลายทางที่มีกฎหมายควบคุมเรื่องกัญชาอย่างเข้มงวด เช่น อังกฤษ อินเดีย ปากีสถานและฮ่องกง โดยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีรายงานจับกุมการลักลอบนำกัญชาออกนอกประเทศได้ประมาณ 72 กิโลกรัม จากผู้กระทำความผิด 3 ราย ดังนั้น เราจึงต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้


“ในอดีตที่ผ่านมาไม่มีข่าวเรื่องการจับกุมลักลอบส่งออกกัญชา ทำให้หลายคนเข้าใจว่าเราปล่อยปละละเลย ดังนั้นจะต้องมีการพัฒนากฎเกณฑ์ในการใช้กัญชาใหม่ ให้เกิดความเรียบร้อยขึ้น โดยเฉพาะการสูบในสถานที่ต่างๆ หรือขออนุญาตสูบกัญชา เดิมทีไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ที่รัดกุม ก็จะต้องมีการปรับปรุงเรื่องนี้ให้ชัดเจน โดยจะต้องเพิ่มข้อกำหนดว่าผู้จะใช้กัญชาจะต้องมีใบรับรองแพทย์ การสั่งจ่ายกัญชาจากแพทย์ในทุกวิชาชีพ ซึ่งกฎหมายจะครอบคลุมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขณะเดียวกันกัญชาที่นำมาจำหน่ายเพื่อการแพทย์ก็จะต้องมีมาตรฐานควบคุม” นายสมศักดิ์ กล่าว


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 การจะส่งออกนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องขออนุญาตกับกรมการแพทย์แผนไทยฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะมีความผิดทั้งจำและปรับ ตนมอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยฯ ดำเนินการปรับปรุงประกาศสมุนไพรควบคุมให้รัดกุมขึ้น ซึ่งมีกรอบดำเนินการใน 40 วัน หลักๆ จะเป็นการปรับปรุง


1.ผู้จะใช้กัญชาทางการแพทย์ หรือผู้ซื้อกัญชา จะต้องมีใบรับรองแพทย์และใบสั่งจ่ายยากัญชาจากแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทย แพทย์เวชกรรมทั่วไป ซึ่งจะครอบคลุมโรคที่บ่งชี้ในการใช้กัญชา เช่น โรคชักเกร็ง นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ เป็นต้น
2.ควบคุมปริมาณที่ใช้ในการรักษาอาการ (ไม่เกิน 30กรัม ต่อเดือนตามรายงานข่าว)
3.กัญชาที่สั่งจ่ายต้องมีมาตรฐาน GACP ที่ออกโดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ส่วนการควบคุมกัญชาด้วย พ.ร.บ.กัญชา นั้น ต้องใช้เวลานาน กฎหมายบางฉบับใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะเสร็จ ไม่สามารถไปเร่งรัดได้ ตนจึงต้องออกประกาศสมุนไพรควบคุม เพราะอยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีฯ สามารถทำได้เลย

ด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 พฤษภาคม) จะมีการประชุมเพื่อหารือถึงการออกประกาศสมุนไพรควบคุมฉบับปรับปรุง โดยจะมีการหารือถึงรายละเอียด เพราะเดิมทีมีการบันทึกแค่ว่าขายกัญชาไปให้กับใครบ้าง แต่ครั้งนี้ต้องมีใบรับรองและใบสั่งจ่ายยากัญชาจากแพทย์สหวิชาชีพ พร้อมกับดูเรื่องลหุโทษ ที่เดิมมีเพียงโทษปรับ ก็จะต้องเพิ่มโทษจำคุกไปด้วย หลังจากที่ยกร่างประกาศสมุนไพรควบคุมเสร็จแล้วก็จะทำประชาวิจารณ์ 15 วัน ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้ามาให้ความเห็นเรื่องนี้


ขณะที่ น.ส.ปวีณา กล่าวว่า ในการตรวจจับสารเสพติดของท่าอากาศยานฯ ดำเนินการอยู่เป็นปกติ แต่เมื่อมีปัญหาการลักลอบส่งออกกัญชา ท่าอากาศยานฯ ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ โดยจุดตรวจค้น รวมถึงเครื่องเอกซเรย์จะต้องตรวจอย่าง 100% และมีฝึกอบรมผู้ตรวจค้นตามมาตรฐาน นอกจากนั้น แผนระยะถัดไปอาจต้องให้สุนัขค้นหา K9 เข้ามาร่วมปฏิบัติงานด้วย

กติกาใหม่ ซื้อ-ขาย ‘กัญชา’ ต้องมีใบสั่งแพทย์ จ่ายครั้งละ 30 กรัม!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมแก้ปัญหาการลักลอบส่งออกกัญชา ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานฯ พร้อมกรรมการ 15 คน ได้แก่ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, อธิบดีกรมศุลกากร หรือผู้แทน, อธิบดีกรมวิชาการเกษตร หรือผู้แทน, ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ, ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือผู้แทน, กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานดอนเมือง, ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง, ผู้อำนวยการท่าเรือแห่งประเทศไทย, นายเทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, นายนันทศักดิ์ โชติชนะเดชาวงศ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้าน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, น.ส.ณัฐฐิรา ชัชจิรากุลโรจน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ น.ส.อรจิรา ทองสุกมาก นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ กล่องคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้าน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก


ต่อมา

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 พิจารณาในประเด็นการใช้พืชสมุนไพรกัญชา ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาหารือนานถึง 3 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะอนุกรรมการกฎหมาย มีมติให้ปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยมี 3 เรื่องที่จะประกาศเพิ่มเติม คือ 1.การอนุญาตจำหน่ายสมุนไพรควบคุม “ช่อดอกกัญชา” โดยปรับในเรื่องของกติกาการจำหน่าย เฉพาะผู้ซื้อที่ต้องมีใบสั่งจ่ายยากัญชาจากแพทย์ ซึ่งรวมทั้งแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525, ทันตแพทย์, เภสัชกร แพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้าน เป็นต้น โดยขณะนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ กำลังรวบรวมรายชื่อแพทย์ที่มีใบอนุญาตในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชิญมาอบรมเรื่องของการสั่งจ่ายยากัญชา

กติกาใหม่ ซื้อ-ขาย ‘กัญชา’ ต้องมีใบสั่งแพทย์ จ่ายครั้งละ 30 กรัม!!
นพ.สมฤกษ์ อินจันทร์

นพ.สมฤกษ์ กล่าวต่อไปว่า 2.ปรับปรุงเรื่องการต่อใบอนุญาตจำหน่าย และส่งออกช่อดอกกัญชา โดยให้อำนาจแก่อธิบดีกรมการแพทย์แผนฯ สามารถพิจารณาไม่ต่อใบอนุญาตให้กับผู้ได้รับอนุญาตที่มีประวัติถูกพักใช้ใบอนุญาต ซึ่งใบอนุญาตดังกล่าวนั้น ต้องต่อทุก 3 ปี


“แต่ที่ผ่านมา พบปัญหาการฝ่าฝืนระเบียบการอนุญาต เช่น จำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชน ไม่ทำบันทึกรายงานการซื้อขายช่อดอกกัญชา เป็นต้น ปัจจุบัน กรมการแพทย์แผนไทยฯ มีการออกใบอนุญาตไปแล้วกว่า 17,000 ใบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านจำหน่ายกัญชาที่เห็นกันทั่วไป ส่วนหนึ่งก็จะเป็นการอนุญาตส่งออกไปต่างประเทศ” นพ.สมฤกษ์ กล่าว


นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า 3.การกำหนดมาตรฐานการปลูกกัญชาที่นำมาจำหน่ายและส่งออก จะต้องผ่านมาตรฐาน GACP (Good Agricultural and Collection Practices) ที่กำหนดโดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ โดยอิงจากแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลิตของสหภาพยุโรป (EU GMP) เนื่องจากช่อดอกกัญชา เป็นการสูบเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น จะต้องมีความปลอดภัยสูง ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การเก็บเกี่ยว การควบคุมดินและน้ำที่ใช้เพื่อลดการปนเปื้อนของสารโลหะหนัก ปัจจุบันมีแหล่งปลูกกัญชาผ่านมาตรฐาน GACP อยู่ 47 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชน เนื่องจากมีความต้องการปลูกเพื่อส่งออก จึงขอประชาสัมพันธ์ให้แหล่งปลูกกัญชาอื่นเข้ามาขึ้นทะเบียนขอมาตรฐาน GACP ซึ่งขั้นตอนการอนุญาตไม่ได้มีอะไรยาก แต่อาจจะยากในเรื่องของการทำแปลงปลูกให้ได้ตามมาตรฐาน โดยผู้ปลูกจะต้องส่งตัวอย่างช่อดอกกัญชาไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ที่กำหนด เพื่อให้ได้กัญชาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ถ้าผ่านทุกขั้นตอนแล้ว คาดว่าใช้เวลาขอมาตรฐาน GACP ประมาณ 1 เดือน


นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ มีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ฉบับปรับปรุงแล้ว จากนี้จะมีการเผยแพร่เพื่อรับฟังความเห็นและทำประชาพิจารณ์ 15 วัน จากนั้น ก็จะนำข้อมูลที่ได้มารวบรวมเข้าหารือในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย


“ไทม์ไลน์ น่าจะแล้วเสร็จปลายเดือนมิถุนายนนี้” นพ.สมฤกษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดของการจำหน่ายช่อดอกกัญชาตามใบสั่งแพทย์ นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ในประกาศฉบับใหม่จะมีการระบุว่า แพทย์สามารถสั่งจ่ายช่อดอกกัญชาได้ครั้งละ 30 วัน ซึ่งสามารถนำกรอบเวลานี้ไปอ้างอิงได้ว่า การมีกัญชาในครอบครองนั้น เพื่อการใช้ทางการแพทย์ หรือเพื่อสันทนาการ หรือเพื่อการจำหน่าย


เมื่อถามต่อไปถึงข้อบ่งชี้ในการใช้ช่อดอกกัญชาเพื่อรักษาโรค นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ในรายละเอียดของร่างประกาศฯ จะระบุอาการบ่งชี้ และปริมาณการจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ ซึ่งจากข้อมูลแล้วพบว่า การใช้ช่อดอกกัญชาเพื่อการรักษาอาการ 1 ครั้ง จะใช้ประมาณ 1 ใน 4 ของช่อดอก หรือ ประมาณ 1 กรัมต่อวัน เฉลี่ยเดือนละ 30 กรัม จึงหมายถึงว่า แพทย์จะสามารถสั่งจ่ายช่อดอกกัญชาได้ครั้งละ 30 กรัม ต่อ 30 วัน


สรุปใจความสำคัญมาตรการใหม่จากรัฐ

ตั้งคณะกรรมการ 15 หน่วยงาน นำโดยปลัด สธ. เพื่อรับมือกับการลักลอบส่งออก

เตรียม ออกประกาศควบคุม “ช่อดอกกัญชา” ให้เข้มข้นขึ้น ภายใน 40 วัน โดยไม่ต้องรอแก้ พ.ร.บ. กัญชา (ซึ่งใช้เวลานาน)


“สมุนไพรควบคุม (กัญชา)” ฉบับใหม่

1. ซื้อกัญชาได้ ต้องมีใบสั่งแพทย์ ทั้ง แพทย์ทั่วไป, ทันตแพทย์, เภสัชกร, แพทย์แผนไทย, พื้นบ้าน ฯลฯ

ต้องอบรมก่อนมีสิทธิ์สั่งจ่ายกัญชาได้ (ชาวบ้านชาวนา, พ่อเฒ่าแม่เฒ่า, คนชราต่างจังหวัดจะมีสิทธิ์เข้าถึงแบบนายทุนหรือป่าวนะ?)

  • แพทย์จะสั่งจ่ายช่อดอกได้ 30 กรัม / 30 วัน

  • กำหนดปริมาณใช้ทางการแพทย์โดยเฉลี่ย: ประมาณ 1 กรัม/วัน

  • เน้นอาการที่ใช้ได้จริง เช่น โรคชัก, นอนไม่หลับ, ปวดเรื้อรัง

2. การต่อใบอนุญาตร้าน/ผู้ส่งออก หากมีประวัติเสีย เช่น ขายให้เด็ก, ไม่ทำบันทึกการขาย จะมีสิทธิ์ “ไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาต”

3. การปลูกเพื่อจำหน่ายหรือส่งออกต้องได้มาตรฐาน GACP (ตามแนวทาง EU GMP) เพื่อความปลอดภัย

ตอนนี้มีแค่ 47 แหล่งปลูกผ่านมาตรฐาน ใช้เวลาขอ GACP ประมาณ 1 เดือน


กฎหมายและโทษจะเพิ่มโทษให้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่แค่ปรับ แต่มีโทษจำคุกด้วย ช่อดอกกัญชายังถือเป็น สมุนไพรควบคุม ภายใต้ พ.ร.บ.แพทย์แผนไทย 2542


ไม่พลาดข่าวสารสำคัญ ติดตามข่าวสารวงการสายเขียวได้แล้วที่

BANGYA BONG ZING


สินค้ากัญชาไทยคุณภาพพรีเมี่ยมจากร้าน BANGYA BONG ZING






 
 
 

Bình luận


bottom of page